กระบวนการผ่าตัดย้ายศีรษะจากร่างหนึ่งไปสู่อีกร่างหนึ่ง ถูกนำเสนอเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2556 โดยนาย เซอร์จิโอ คานาเวโร ศัลยแพทย์ชาวอิตาลี ในเมืองตูริน
โดยหวังว่าการผ่าตัดประเภทนี้จะสามารถต่อชีวิตให้คนไข้ที่ป่วยด้วยภาวะกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทเสื่อม รวมทั้งผู้ป่วยมะเร็งที่ลุกลามไปทั่วร่างกายให้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่ล่าสุดแพทย์รายนี้ระบุว่าจะสามารถผ่าตัดเปลี่ยนศีรษะแบบนี้ได้จริงในช่วงต้นปี 2560
สำหรับขั้นตอนในการผ่าตัด แพทย์จะรักษาความเย็นให้แก่ศีรษะของผู้ป่วยและร่างกายใหม่ที่ได้รับการบริจาคมา เพื่อรักษาไม่ให้เซลล์ในส่วนต่างๆ ของร่างกายตายในระหว่างการผ่าตัด
โดยหลังจากที่ศีรษะถูกตัดออกจากลำตัวเดิมด้วยอุปกรณ์พิเศษ เส้นเลือดใหญ่ของส่วนหัวจะถูกต่อกับท่อขนาดเล็ก ขณะที่ไขสันหลังก็จะถูกตัดออกด้วยกรรมวิธีพิเศษที่ทำให้เส้นประสาทได้รับความเสียหายให้น้อยที่สุด จากนั้นก็จะเคลื่อนย้ายศีรษะไปยังร่างใหม่ โดยใช้สารประเภทโพลีเอธิลีน ไกลคอล เป็นตัวเชื่อมไขสันหลังเข้ากับร่างใหม่ ซึ่งหากการทดสอบเชื่อมไขสันหลังกับระบบประสาทต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนที่ยากที่สุด ทำได้สำเร็จ การผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนศีรษะแบบนี้จะไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป โดยคนไข้ที่เข้ารับการผ่าตัดแบบนี้จะมีอาการอยู่ในโคม่าราว 3-4 สัปดาห์ จากนั้นก็จะฟื้นตัวขึ้น เริ่มมีความรู้สึกที่ใบหน้า และพูดได้ แต่ยังต้องใช้เวลาบำบัดอีกอย่างน้อย 1 ปี ก่อนที่จะกลับมาเดินได้อีกครั้ง
การผ่าตัดเปลี่ยนศีรษะไปยังร่างใหม่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว ตั้งแต่เมื่อปี 2513 โดยศัลยแพทย์โรเบิร์ต ไวท์ จากมหาวิทยาลัยการแพทย์ในเมืองคลีฟแลนด์ ในโอไฮโอของสหรัฐฯ โดยเป็นการผ่าตัดให้แก่ลิง แต่มีอุปสรรคสำคัญ คือ ไม่สามารถเชื่อมต่อไขสันหลัง ให้เข้ากับร่างใหม่ได้ ทำให้ลิงตัวนั้นไม่สามารถขยับร่างกายได้ แต่สามารถหายใจได้ด้วยเครื่องมือพิเศษ แต่ก็ตายลงหลังจากนั้น 9 วัน เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่ยอมรับศีรษะใหม่
แต่มีอุปสรรคสำคัญ คือ ไม่สามารถเชื่อมต่อไขสันหลัง ให้เข้ากับร่างใหม่ได้ ทำให้ลิงตัวนั้นไม่สามารถขยับร่างกายได้ แต่สามารถหายใจได้ด้วยเครื่องมือพิเศษ แต่ก็ตายลงหลังจากนั้น 9 วัน เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่ยอมรับศีรษะใหม่
ที่มา:ไทยรัฐ