หมีน้ำถูกค้นพบครั้งแรกโดย Johann August Ephraim Goeze ในปี 1773 คำว่า Tardigrades มีความหมายว่า เจ้าตัวเดินช้า( Slow Walker )
ส่วนชื่อ หมีน้ำ ( Water Bear ) นั้นมาจากท่าทางการเดินของพวกมัน เมื่อโตเต็มที่มีขนาดเพียง 1.5 มิลลิเมตร ส่วนตัวที่เล็กที่สุดมีขนาดเพียง 0.1 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงตัวอ่อนมีขนาดเพียง 0.05 มิลลิเมตร
หมีน้ำมีมากกว่า 1000 สายพันธุ์ โดยมากเป็นพวกกินพืช ส่วนน้อยกินแบคทีเรีย และกินสัตว์
หมีน้ำสามารถพบได้ทั่วโลก ตั้งแต่ที่ยอดเขาหิมาลัย(Himalayas) ที่ความสูงกว่า 6,000 เมตร จนถึงในทะเลลึกถึง 4,000 เมตร ไม่ว่าจะเป็นที่ขั้วโลก หรือในบริเวณเส้นศูนย์สูตร
หมีน้ำชอบอาสัยอยู่ที่ต้นมอส และพวกเห็ด รา ต่างๆ แต่ยังสามารถพบได้ตาม ทราย ชายหาด ดิน แร่ธาตุ และในตะกอนน้ำ
ร่างกาย เป็นท่อน 4 ท่อน(ไม่รวมส่วนหัว) ในแต่ละท่อนมี 2 ขา ในแต่ละขามีเล็บ
ภาพนี้เมื่อพวกมันถูกแช่แข็ง พวกมันก็จะอยู่ในสภาพเหมือนจำศีล เมื่อละลายพวกมันพวกมันก็จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง |
หมีน้ำสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -272.8°C (ได้ประมาณ 1 นาที ) และที่ -200°C ( อยู่ได้ประมาร 1 วัน )
หมีน้ำสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 151 °C
สามารถทนรังสีได้มากกว่ามนุษย์ถึง 1,000 เท่า
เมื่อปราศจากน้ำพวกมันจะอยู่ในสภาพจำศีลได้กว่า 100 ปี และเมื่อได้รับน้ำพวกมันสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นได้อีกครั้ง
สามารถอยู่ได้ในสภาพนอกโลก( ในปี 2007 หมีน้ำถูกน้ำนำไปทดสอบในโครงการ FOTON-M3 โดยน้ำไปโคจรในอวกาศถึง 10 วัน เมื่อนำพวกมันกลับมายังโลกพบว่าพวกมันส่วนใหญ่สามารถรอดชีวิต ทั้งยังมีบางตัววางไข่ ออกลูกได้ ต่างหาก )
ขอบคุณที่มา wowboom