ต้นไม้กินคนแห่งมาดากัสก้า


 ปริศนาเรื่องราวของต้นไม้กินคนแห่งมาดากัสก้านั้นเป็นเรื่องที่มีการเล่าขานกันมาเป็นระยะเวลานานและมีการพยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับต้นไม้ดังกล่าวว่าแท้ที่จริงแล้วนั้นต้นไม้ดังกล่าวมีอยู่จริงหรือไม่ ถ้ามีอยู่จริงมันตั้งอยู่ที่ไหนส่วนไหนของเกาะมาดากัสก้ากันแน่ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงตำนานต้นไม้ปริศนาแห่งหมู่เกาะมาดากัสก้ากัน

ตำนานต้นไม้ปริศนาแห่งมาดากัสก้านั้นมีที่มาจากนักเดินทางชาวเยอรมันในศตวรรษที่ 19 ท่านหนึ่งผู้มีนามว่า คาร์ล ลิช เขาได้เขียนจดหมายที่มีใจความน่าสนใจเกี่ยวกับต้นไม้ปริศนาต้นหนึ่งที่อยู่บนหมู่เกาะมาดากัสก้าให้กับ ดร.โอเม โลดเฟรสกี้ ผู้เป็นเพื่อนของเขา โดยเขาได้เขียนมาเล่าว่า ชาวปิ๊กมี่เผ่าหนึ่งที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะมาดากัสก้านี้มักจะมีพิธีกรรมบูชาต้นไม้ประหลาดต้นหนึ่ง


โดยในพิธีกรรมนั้นพวกชาวบ้านจะนำคนที่เป็นเหยื่อมาบูชายัญมายังต้นไม้ต้นดังกล่าว ก่อนที่ต้นไม้ดังกล่าวจะรัดเหยื่อที่เป็นมนุษย์จนขาดใจตายไป จากนั้นชาวบ้านก็จะพากันมาดื่มน้ำจากต้นไม้ปริศนาต้นดังกล่าวโดยน้ำที่ได้จากต้นไม้ต้นดังกล่าวนั้นจะมีสีเหมือนน้ำผึ้งผสมกับเลือดและมีฤทธิ์ที่ทำให้ผู้ดื่มตกอยู่ในอาการมึนเมา พอเวลาผ่านไปได้ซักระยะ คาร์ล ลิช ก็ได้กลับไปสำรวจต้นไม้ดังกล่าวแต่สิ่งที่เขาพบนั้นมีเพียงหัวกะโหลกสีขาวที่วางอยู่ข้างต้นไม้เท่านั้น


เรื่องที่ คาร์ล ลิช เขียนมาเล่าให้เพื่อนของเขาฟังนั้นได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารของประเทศเยอรมันในปี 1878 จากนั้นก็มีผู้นำเอาบทความดังกล่าวไปแปลเป็นภาษาต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นในประเทศอินเดีย สหรัฐอเมริกา หรือ ออสเตรีย เป็นต้น ส่งผลให้เรื่องราวของต้นไม้กินคนนั้นเป็นประเด็นที่น่าสนใจในสายตาของชาวโลกว่าต้นไม้ที่ว่านี้มีอยู่จริงๆหรือไม่

 แล้วถ้าต้นไม้ต้นดังกล่าวนี้มีอยู่จริงมันอยู่ที่ไหนในหมู่เกาะมาดากัสก้ากันแน่ แต่นักพฤกศาตร์บางกลุ่มก็ออกมาโต้แย้งถึงประเด็นการมีอยู่ของต้นไม้ดังกล่าวว่าเป็นเรื่องเหลวไหลและเป็นไปไม่ได้ที่จะมีต้นไม้ดังกล่าวจริงบนโลกอีกทั้งนักผจญภัยที่ชื่อว่า คาร์ล ลิช นั้นเป็นใครก็ไม่รู้ นักพฤกษศาสตร์จึงพากันตัดสินใจลงความเห็นตามๆกันว่าเรื่องราวของต้นไม้กินคนนั้นเป็นแค่เรื่องโกหกของ คาร์ล ลิช และประเด็นดังกล่าวก็จบลงเพียงเท่านั้น


ในปี 1920 หนังสือพิมพ์อเมริกันวีคลี่ได้จับเอาประเด็นดังกล่าวมาเขียนอีกครั้งจนปลุกให้ประเด็นเรื่องราวของต้นไม้กินคนกลับมาเป็นประเด็นในสังคมอีกครั้ง ซึ่งประเด็นดังกล่าวนั้นได้มีผู้ที่ชื่นชอบความลี้ลับของต้นไม้ปริศนาต้นนี้เดินทางไปสำรวจกันมากมายในบริเวณหมู่เกาะมาดากัสก้าไม่ว่าจะเป็นท่านผู้ว่าแห่งมลรัฐมิชิแกน เชส ออสบอร์น ที่ลงทุนเดินทางไปยังหมู่เกาะมาดากัสก้าเพื่อตามหาความจริงในเรื่องดังกล่าวแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะที่นักเดินทางอีกคนที่ได้เดินทางไปยังหมู่เกาะมาดากัสก้าอย่าง แอล เฮิร์ส ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการค้นหาต้นไม้กินคนต้นดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงสร้างปริศนาให้กับผู้คนที่สนใจในประเด็นดังกล่าวก็คือการให้การจากปากคำของผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะดังกล่าว โดยชาวเผ่าทุกคนต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าต้นไม้ต้นดังกล่าวนั้นมีอยู่จริงและพวกเขาเหล่านั้นต่างก็เคยพบกับต้นไม้ดังกล่าวมาแล้ว 

สำหรับเหล่านักพฤกษศาสตร์นั้นยังคงยืนยันกันตามเดิมว่าต้นไม้ดังกล่าวนั้นไม่มีอยู่จริงและประกาศว่าถ้าหากใครก็ตามที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าต้นไม้กินคนนั้นมีอยู่จริงจะได้รับเงินรางวัลเป็นจำนวนถึงหนึ่งหมื่นเหรียญเลยทีเดียว เล่ากันว่า แอล เฮิร์ส ได้นำเอาภาพถ่ายของต้นไม้กินคนกลับมาให้เหล่านักพฤกษศาสตร์ดูแต่ปรากฏว่าภาพถ่ายดังกล่าวนั้นเป็นเพียงแค่ของปลอมเท่านั้นจึงทำให้เรื่องนี้ยังคงเป็นความลับต่อไป

อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าต้นไม้กินคนนั้นมีอยู่จริงในโลกหรือไม่ หรือเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับต้นไม้กินคนนั้นเป็นเพียงสิ่งที่แต่งขึ้นมาของ คาร์ล ลิช อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวนั้นยังคงเป็นปริศนาที่รอให้มีการพิสูจน์กันต่อไป ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคตถ้าหากคุณได้ไปเยือนยังหมู่เกาะมาดากัสก้าแล้วละก็คุณอาจจะได้บังเอิญไปพบเจอกับต้นไม้ปริศนาที่สุดแสนจะน่ากลัวต้นนี้เข้าก็เป็นได้

ขอบคุณที่มา:https://board.postjung.com/993676