จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์กระดูกผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หลังญาติทำพิธีฌาปนกิจและเก็บอัฐิวันที่ 6 ส.ค. พบว่าบนชิ้นส่วนกระดูกมีรอยสลักตัวเลขและตัวอักษร คณะสัปเหร่อและเจ้าอาวาสต่างพูดกันว่าเกิดมาไม่เคยพบเห็น ที่สำคัญตัวเลขที่ดูเหมือนถูกแกะลึกลงจากใต้ชั้นกระดูก หรือ ผิวกระดูกส่วนใน หากเป็นการตอกโค้ดลึกแบบนี้ต้องมีรอยร้าวให้เห็นบ้างและบริเวณขอบจะไม่คมแบบนี้แน่ๆ หากเป็นงานเลเซอร์มันก็ไม่ใช่ลักษณะนี้ มันลงลึกได้แบบนี้โดยขอบไม่ไหม้ได้ยังไง ประวัติผ่าตัดก็ไม่มี ยิ่งไปกว่านั้นคือตัวเลขที่เห็นคือวันเกิดและวันตายของผู้เสียชีวิต
น.ส. ภูษณิศา เปิดเผยว่า น้องได้ประสบอุบัติเหตุจากรถ จยย. โดยหลังจากประกอบพิธีทางศาสนาจนถึงขั้นตอนการฌาปนกิจแล้วเสร็จ โดยรุ่งเช้าตนเองก็ได้เดินทางไปเก็บอัฐิน้องกับครอบครัวที่เมรุของวัดแห่งหนึ่ง โดยมีพระภิกษุสงฆ์ และ สัปเหร่อได้ยืนรอเพื่อถามครอบครัวว่า ผู้ตายเคยประสบอุบัติเหตุมั้ยทำไมกระดูกถึงมีตัวเลขแบบนี้ ครอบครัวจึงตอบไปว่าไม่เคยและถามกลับไปว่ากระดูกที่พบตัวเลขเป็นส่วนไหนพระก็บอกกลับมาว่าน่าจะเป็นส่วนหัว ตนเองจึงมาดูก็พบตัวเลขมันสอดคล้องกันกับอะไรหลายๆ อย่างโดยตัวเลขและตัวอักษรที่พบคาดว่าจะบ่งบอกได้ว่า 02-04, P024U-11, 1 16L-1 ทางครอบครัวยิ่งตกใจ เพราะตัวเลขนั้นตรงกับวันเกิด 24 ธ.ค. 2538 และวันตาย 1 ส.ค. 2564
ส่วนตัวภาษาอังกฤษ P สังเกตห็นรอยกระดูกหักหน้าตัว P คาดว่าป็นตัว S ซึ่งอาจเป็นชื่อย่อคนตาย "สฐาพร" ส่วนตัว P เป็นนามสกุล "พรแสง" จึงรู้สึกว่าฟ้าลิขิตมาแล้วว่าน้องต้องเกิดและตายวันไหน ซึ่งอย่างไรก็แล้วแต่เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล โดยสิ่งที่พบทำให้ทุกคนทำใจได้ว่าลูกคงหมดอายุของเขา ซึ่งแม้ยังไม่ได้พิสูจน์ว่ามันคืออะไรแต่มันทำให้ทุกคนมีแรงสู้ต่อไป คิดว่าเขาคงหมดอายุขัยแล้วและไปดีแล้ว
นายสมใจ พรแสน พ่อผู้ตายเปิดเผยว่า ตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร เพราะลูกชายไม่เคยรับการผ่าตัดกับร่างกายหรือประสบอุบัติเหตุใหญ่ โดยล่าสุดมีสื่อช่องหนึ่งอาสานำอัฐิที่เก็บได้ไป 2 ชิ้นเพื่อนำส่งอาจารย์ของมหาวิทยาลัยหนึ่งเพื่อตรวจสอบว่าสิ่งที่พบคืออะไร และเป็นกระดูกหรือไม่คาดว่าจะใช้เวลาไม่กี่วัน แต่ผลออกมาจะเป็นอะไรตนเองก็ยินดีเพราะตนเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร
เป็นยังไงบ้างครับกับเรื่องนี้ เพื่อนๆคิดว่าอาจจะเป็นการทดลองบางอย่างของมนุษย์ต่างดาวหรือการทดลองจากมนุษย์รึเปล่าครับ สำหรับตัวผมมันเหมือนในหนังไซไฟมากครับ
ขอบคุณที่มา https://www.sanook.com/news/8425310/